ป้าวัย 63 ปี ร้องสส.ก้าวไกล เกิดมาไม่มีบัตรปชช. ไร้สิทธิทุกอย่าง ป่วยต้องจ่ายค่ารักษาเองบางวันหมอต้องให้เงินค่ารถกลับบ้าน - sotyotnews24.com

Tuesday, November 28, 2023

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 28 พ.ย. 66 ที่สำนักงานสส.พรรคก้าวไกล เขต 7 นนทบุรี ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี น.ส.สมนึก ตาจำนงค์ อายุ 63 ปี อาชีพเก็บของเก่าขาย เดินทางเข้าร้องขอความช่วยเหลือในการมีบัตรประชาชน เพราะแม้แต่อายุของตัวเองป้าสมนึกยังไม่รู้ ต้องอาศัยถามกับส.ท.สายันต์ (อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 11) ที่เติบโตมาด้วยกัน ป้าสมนึกไม่เคยได้รับสิทธิประโยชน์ในการเป็นคนไทย ไม่ว่าจะเป็นเบี้ยผู้สูงอายุ สิทธิบัตรทอง การฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อ Covid-19 ทุกวันนี้ต้องเสียเงินทุกครั้งที่เข้ารักษาตัว เนื่องจากการเจ็บป่วยและมีโรคประจำตัว ป้าสมนึกเคยติดต่อไปยังอำเภอบางบัวทอง แต่ถูกปฏิเสธในการมีบัตรประชาชน ทำให้ป้าสมนึก และครอบครัวต้องอยู่ด้วยความยากลำบาก เพราะลูกทั้ง 2 คน ที่คอยเลี้ยงดู ช่วยเหลือ ก็ไม่มีบัตรประชาชนด้วยเช่นกัน

น.ส.สมนึก ตาจำนงค์ อายุ 63 ปี อาชีพเก็บของเก่าขาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเดินทางมาร้องสส.โป้ง อยากให้ช่วยทำบัตรประจำตัวประชาชนให้ตนกับลูกของตน ตอนนี้เดือดร้อนมาก ไม่มีเงินใช้จ่าย ต้องเลี้ยงหลานอีก 1 คน ตอนนี้อายุ 60 กว่าปีแล้ว ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีบัตรประจำตัวประชาชน เคยขอให้พ่อพาไปทำแล้วแต่พ่อไม่พาไป ตนมีญาติพี่น้องร่วมกัน แต่ไม่ได้ไปมาหากันไปหาหมอแต่ละครั้งต้องจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาล 700-1,000 บาท บางครั้งคุณหมอก็ให้เงินมาซื้อข้าวสารครั้งละ 200-300 บาท ไม่เคยได้รับสิทธิประโยชน์จากรัฐบาล ช่วงโควิดระบาดตนก็ไม่ได้รับการฉีดวัคซีน เคยไปติดต่อขอทำบัตรที่อำเภอถูกไล่กลับมา ทางเจ้าหน้าที่ให้จ่ายเงินคนละ 6,000-7,000 บาท ล่าสุดที่ไปเรียก 25,000 บาท หากไม่มีจ่ายก็กลับไป ไม่ต้องทำ อยู่แบบไหนก็อยู่อย่างนั้น ลักษณะของเจ้าหน้าที่แต่งชุดของหน่วยงาน ตนเสียใจเดินร้องไห้กลับมาพร้อมลูก มีลูก 2 คนที่ไม่ได้ทำบัตรประชาชน ส่วนลูกคนที่เหลือแฟนเก่าพาไปทำในฐานะลูกของเขา แต่โตมาก็รับตนเป็นแม่แท้ ๆ ตอนนี้ทำอาชีพเก็บของเก่า รับจ้างทั่วไปได้เงินวันละ 100 บาท ใช้ซื้อข้าวสาร ซื้อกับข้าวกิน วันไหนมีอาการปวดหัวก็ซื้อยาพารามากิน หากมีเงินพอเหลือเก็บก็จะต้องใช้หาหมอ เพราะเป็นโรคความดันในเลือด หากยาหมดความดันจะขึ้น มีอาการเวียนหัว ทำงานไม่ได้ ตอนนี้เช่าห้องอยู่ มีลูกชายส่งเสียให้เดือนละประมาณ 3,000 บาท หลังจากจ่ายค่าห้องถ้าเงินเหลือก็พอมีเงินใช้ ลูกชายก็ไม่ได้แจ้งเกิด เพราะพ่อมาเสียชีวิตก่อน ทุกวันนี้ใช้ชีวิตเหมือนคนต่างด้าว เวลามีหน่วยงานมาแจกของได้แต่ยืนมองและกลับไปทำงานต่อ สาเหตุที่เข้ามาร้องสส.โป้งเพราะอยากให้ช่วยทำบัตรประชาชนให้ตน รวมถึงลูกของตนด้วย จะได้จ่ายค่ารักษาน้อยลง

นายอนุพล ตางระแม หรือบังดุล อายุ 40 ปี บังดุล (เจ้าของห้องเช่าที่ป้าสมนึกเช่าอยู่) กล่าวว่า วันนี้พาคุณป้าสมนึกมาติดต่อขอรับความช่วยเหลือจากทางสส.โป้ง ในเรื่องของการได้รับบัตรประจำตัวประชาชนซึ่งมีการติดต่อขอไปหลายรอบแต่ไม่สำเร็จ จึงเข้าร้องเรียนขอวันนี้ ส่วนตัวรู้จักกับคุณป้ามา 2 ปีแล้ว เพราะป้าสมนึกย้ายเข้ามาอยู่ห้องเช่าแถวบ้านตน มีโอกาสได้ผ่านไปเห็น หลังพูดคุยก็รู้สึกสงสาร ได้ข้อมูลว่าเคยอาศัยอยู่ที่คลองเจ๊ก โดยมีส.ท.สายันต์ (อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 11) ยืนยันได้ว่าคุณป้าเกิดที่นี่จริง การไม่มีบัตรประชาชนเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับคนไทย เนื่องจากต้องใช้ยืนยันตัวตนในการรับสิทธิขั้นพื้นฐาน หากไม่มีก็ลำบาก ส่วนตัวตนรู้สึกหดหู่ ถึงจะมีมากกว่าแต่ถ้าการช่วยเหลือ ให้ข้าวให้น้ำเปรียบเหมือนการช่วยรายวันแต่หากช่วยทำให้คุณป้ามีบัตรประชาชนก็จะยั่งยืนในส่วนของภาครัฐ ส่วนของค่ารักษาพยาบาลหรือสิทธิต่าง ๆ โดยทั่วไปคนไทยที่มีปัญหาตรงนี้จะเป็นคนที่อยู่นอกเมือง แต่กรณีนี้เป็นบุคคลที่อาศัยอยู่ในเมืองและเป็นมานานจนเข้าสู่วัยชราแล้ว ยังไม่ได้บัตรประชาชนเป็นไปได้อย่างไร จึงเลือกมาช่วยเหลือและปรึกษากับคนที่รู้มากกว่าจะทำให้มีโอกาสสำเร็จได้มากกว่า

นายเกียรติคุณ หรือ สส.โป้ง กล่าวว่า จากที่ได้ฟังคุณป้าเล่า คุณป้ายืนยันว่าเกิดที่คลองเจ๊ก หมู่ 11 ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เติบโตที่นี่มามากกว่า 60 ปี โดยมีเพื่อนที่เติบโตมาด้วยกันคืออดีตผู้ใหญ่บ้าน แต่เกษียณมา 3 ปีแล้ว ปัจจุบันเป็นส.ท.ของเทศบาลเมืองใหม่บางบัวทอง ซึ่งเป็นพยานบุคคลแต่วันนี้ไม่อยู่ ไปต่างจังหวัด ซึ่งได้มีการพูดคุยสอบถามถึงข้อเท็จจริงกันผ่านโทรศัพท์แล้ว ทางส.ท.ยืนยันว่าเติบโตมาพร้อมกับคุณป้าจริง เดิมทีบ้านของส.ท.มีอาชีพทำนา เลี้ยงควาย แต่มีโอกาสได้เรียนหนังสือส่วนคุณป้าไม่ได้เรียนจึงมาเป็นคนเลี้ยงควายให้กับคุณพ่อ นอกจากนี้ยังมีเพื่อนรุ่นเดียวกันอีกประมาณ 2-3 คน ซึ่งพรุ่งนี้จะประสานส.ท.สายันต์ (อดีตผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 11) จะไปลงพื้นที่ตามหาคนรู้จักกับคุณป้า เพื่อเป็นพยานยืนยันว่าคุณป้าเป็นคนไทย รวมถึงคุณพ่อคุณแม่ และอาศัยอยู่ตรงนี้มามากกว่า 60 ปีแล้ว เพราะคุณป้าไม่มีหลักฐานอะไรเลย ทั้งที่มีลูกกับสามีมาถึง 2 คน กับสามีคนแรกมีลูก 5 คน เสียชีวิตไป 1 คน เหลือ 4 คน แต่ลูกทั้งหมดถูกญาติของสามีนำไปเลี้ยงโดยที่รู้ว่ามีคุณป้าเป็นแม่ และมีลูกกับสามีใหม่อีก 2 คน ปัจจุบันทำงานอยู่ มีรายได้พอสมควร ส่งให้คุณป้าเดือนละ 1,000-2,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายซึ่งก็ลำบากในการทำมาหากิน เพราะลูกทั้ง 2 คนก็ไม่มีบัตรประชาชนเช่นเดียวกัน ทำให้ขาดสิทธิตามกฎหมาย รวมถึงการหางานทำก็ยาก วันนี้จึงเดินทางเข้ามาขอร้องให้ช่วยติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการขอบัตรประชาชน คุณป้ากับลูกเคยไปติดต่อด้วยตัวเองที่อำเภอแล้วหลายครั้ง แต่คิดว่าคงไปสื่อสารกันอย่างไม่เข้าใจ รวมถึงไม่มีเอกสารประกอบการรับรองจึงทำให้ถูกปฏิเสธกลับมา หลังจากนี้ตนจะรีบประสานกับทางอำเภอบางบัวทองนำหลักฐานเอกสารรวมถึงพยานบุคคลและนำตัวคุณป้าไปติดต่อที่ว่าการอำเภอบางบัวทองเพื่อพิสูจน์ว่าคุณป้ามีตัวตน และเป็นคนไทยให้ได้บัตรประชาชนกลับมา เพื่อจะได้ใช้สิทธิตามกฎหมาย ทั้งสิทธิ์ค่ารักษาพยาบาล สิทธิ์ของผู้สูงอายุรวมถึงสิทธิอื่น ๆ ที่กฎหมายภายในประเทศไทยยอมรับ พรุ่งนี้จะลงพื้นที่เพื่อตามหาพยานบุคคลร่วมกับส.ท.สายันต์ ทุกวันนี้คุณป้ารักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลไทรน้อย อาจพอมีข้อมูลจากทางโรงพยาบาลบ้างบางส่วน และคาดว่าคงได้ข้อมูลจากบุคคลที่รุ่นราวคราวเดียวกันกับคุณป้าและอาศัยอยู่แถวนั้นมาร่วมเป็นพยานบุคคล

เบื้องต้นทางด้านนายอภิสิทธิ์ ธรรมธาดา ผู้ช่วยดำเนินงานประจำตัว สส.พรรคก้าวไกล เขต 7 นนทบุรี เห็นป้าสมนึกร้องไห้และเกิดความสงสาร จึงมอบเงินช่วยเหลือ จำนวน 300 บาท เพื่อให้ป้าสมนึกไว้ใช้จ่ายจำเป็น

กำพลศิลป์ วงษ์เดือน ผู้สื่อข่าวสยามนิวส์ จังหวัดนนทบุรี

ป้าวัย 63 ปี ร้องสส.ก้าวไกล เกิดมาไม่มีบัตรปชช. ไร้สิทธิทุกอย่าง ป่วยต้องจ่ายค่ารักษาเองบางวันหมอต้องให้เงินค่ารถกลับบ้าน